รวมทั้งรักสัตว์ด้วย คนและก็ม้า สู่ศิลป์การขับเขยื้อน อ่อนโยน งามสวยเด่นเป็นสง่า

รวมทั้งรักสัตว์ด้วย ตอนนี้การขี่ม้าในประเทศไทย นับว่าบูมเป็นอันมาก ด้วยเหตุว่าได้รับแรงส่งเสริมจากผู้ดูแลผู้พอใจกีฬาขี่ม้า รวมทั้งผู้ฝึกสอน ซึ่งมองเห็นได้จากการแข่งขันชิงชัยศิลป์การบังคับม้า 2006 ในคราวนี้ภายใต้อำนาจบังคับโดย สหพันธรัฐขี่ม้านานาประเทศ

โดยสโมสรขี่ม้าที่เมืองไทย เป็นผู้ดำเนินงาน ให้มีการชิงชัยเพื่อเก็บคะแนน สะสมแต้ม ดันรายนามนักกีฬาขี่ม้าเยาวชนไทย ไปสู่การจัดชั้นของสหพันธรัฐ โดยคนที่สามารถทำแต้มสูงสุด 63.4 % สำหรับในการแข่งคราวนี้ตัวอย่างเช่น น้องเพิร์ธ – เด็กหญิงภวิตา รุ่งยอดเยี่ยม

ซึ่งการแข่งขันชิงชัยได้จัดขึ้นที่ จังหวัดนนทบุรี อีเควสเตรียน สปอร์ต คลับ การประลองศิลป์การบังคับม้า หรือที่เรียกกันว่า เดรสซาจ พันเอกเฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวดา เลขาธิการชมรมขี่ม้าที่เมืองไทย ซึ่งเป็นเยี่ยมในคณะกรรมการการจัดการแข่งคราวนี้ ได้ให้ข้อจำกัดความไว้ว่า กีฬาขี่ม้า

“การประลองชนิดนี้ก็ราวกับการแข่งขันชิงชัยยิมนาสติก ชนิดฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ให้แต้ม 0-10 คะแนน ในแต่ละท่า ซึ่งการประลองแต่ละครั้งก็จะกำหนดท่าไว้แตกต่างกัน ในแต่ละระดับ ซึ่งผู้แข่งขันจะบังคับม้าของตัวเองประพฤติตามคำบัญชา ซึ่งคนใดกันบังคับม้าของตนเอง

ได้อย่างงดงาม แต่ละอาการได้เข้าตากรรมการมากยิ่งกว่ากัน คนนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ รวมทั้งในปีนี้ทางชมรมได้จุดโฟกัสและก็มอบโอกาสเด็กสำหรับการลงแข่งขันอย่างมาก เพราะเหตุว่านับว่านักกีฬาเด็กจะเป็นอันมากสำคัญในอนาคต สำหรับเพื่อการชิงชัยชนิดเดรสซาจ

ถือได้ว่าเป็นการแข่งที่ยากและก็ท้า จากทั้งผองของจำพวกการแข่งขันชิงชัย เนื่องจากมันเช่นเดียวกับม้าเต้นระบำ ใช้ความสามารถที่ฝึกซ้อมมาเป็นพิเศษสั่งดวงใจพวกเรารวมทั้งม้าให้เปิดโอกาสดวงเดียวกัน ทำให้ทุกส่วนของร่างกายถูกนำออกมาใช้ ซึ่งจุดเด่นของการขี่ม้า

ชนิดนี้เป็นเว้นเสียแต่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงแล้ว พวกเรายังได้ปรับปรุงบุคลิกลักษณะ ด้วยท่านั่งที่ถูก ข้างหลังตรง สง่า ที่สำคัญยังปรับปรุงจิตใจทำให้เป็นคนใจเย็น ”

การเปลี่ยนฝีเท้าม้า

รวมทั้งรักสัตว์ด้วย ด้าน นันทินี แทนเน่อร์ ผู้พอใจและก็ช่วยเหลือการเล่นกีฬาขี่ม้า

บอกว่า “การประลองชนิดเดรสซาจ มือและก็ขา เป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้สำหรับเพื่อการบังคับม้า พวกเราจะมีความเห็นว่าคนขี่ม้าเพราะเหตุใดก็เลยสามารถขี่ได้สวยสดงดงามจัง แม้กระนั้นพวกเราจะไม่ทราบหรอกว่าเขาบังคับกันยังไง มันเหน็ดเหนื่อยแล้วก็ยากมากมาย จำต้องอาศัย

การเล่าเรียน ฝึกหัด การแข่งขันชิงชัยจำพวกนี้จะแตกต่างจากการประลองขี่ม้าโปโล ที่กรรมวิธีติดต่อกับม้า ซึ่งโปโลจะใช้การต่อเนื่องกันน้อยกว่ามีเพียงแค่ เดินหน้า หยุด ซ้าย ขวา แม้กระนั้นเดรสซาจจำเป็นต้องติดต่อกันออกจะสูง การประลองจำพวกนี้ก็เลยเป็นหลักฐาน

ที่ผู้เล่นจะนำไปเล่นจำพวกอื่นๆอย่างขี่ม้าโปโล, ขี่ม้าผ่านเครื่องขัดขวาง” อีกสาวหนึ่งที่เชี่ยวชาญอยู่ในแวดวงขี่ม้า เชอรี่- ชัญญา ศรีฟุ้งเฟื่อง ผู้ครอบครองสถานศึกษาสอนขี่ม้าที่เปิดมากมายว่า 6 ปี บอกว่า “ในตอนนี้วงการกีฬาขี่ม้า ถือได้ว่าที่น่าดึงดูดเป็นอย่างมาก ดูบอลสด

เด็กมาเรียนมากขึ้น คนแก่เกื้อหนุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งที่เรียนก็มากยิ่งขึ้น ซึ่งต่างจากแต่ก่อน ประโยชน์ที่ได้รับมาจากกีฬาขี่ม้าก็คือ ได้สนิทสนมกับสัตว์ มีความรักรวมทั้งความเพียรพยายามรู้เรื่องในธรรมชาติของสัตว์ เนื่องจากว่ากีฬาจำพวกนี้ เป็นกีฬาประเภทเดียว ที่มีวัสดุ

อุปกรณ์เป็นสิ่งมีชีวิต ด้วยเหตุนี้ การขี่ม้านั้นคนกับม้าจะต้องเหมาะให้ได้ อย่างกับการเต้นลีลาศ ที่ตรงนี้ทำให้เด็ก รู้เรื่องสัตว์ ตลอดจนเพื่อนพ้องที่เป็นมนุษย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผลดีอย่างลำดับที่สองเป็นได้สมาธิ เพราะเหตุว่าการขี่ม้าจะต้องใช้ความตั้งอกตั้งใจอย่างยิ่ง ท้ายที่สุดเป็น

เรื่องของร่างกาย ที่ได้ขยับเขยื้อนทุกส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นขา สำหรับผู้ที่ต้องการขี่ม้าเก่งๆ เชอรี่ขอชี้แนะว่าจำต้องฝึกซ้อมจำนวนมากรู้เรื่องม้า รู้เรื่องกฎข้อตกลงมรรยาท สำหรับเพื่อการขี่ม้า”

ดูบอลสด

ในตอนที่ หม่อมหลวง ลักษสุภา กฤดากร พูดถึงคุณประโยชน์

สำหรับเพื่อการขี่ม้าว่า “ขี่ม้ามา 6-7 ปีแล้ว รู้สึกชื่นชอบการขี่ชนิดจั๊มปิ้ง ให้อิสระกับพวกเราแล้วก็ม้าสำหรับเพื่อการที่จะไปร่วมกัน การขี่ม้าช่วยทำให้พวกเราบาลานซ์ชีวิตเจริญ มีแนวทางชีวิตกว้างขึ้น เวลาขี่ม้าจะมีสติสัมปชัญญะ อ่อนโยน เป็นผู้ที่สะกดอารมณ์ได้ดิบได้ดี การเปลี่ยนฝีเท้าม้า

ไม่ขี้โมโห มีความเชื่อมั่นและมั่นใจ” สำหรับสาว สาวิกา กาญจนกระทั่งสุวรรณ ศิลปินสาวคนมีชื่อเสียง ที่ชื่นชอบในด้านการขี่ม้าเปิดเผยว่า “เดรสซาจเป็นการชิงชัยที่ยาก ด้วยเหตุว่าคู่ของพวกเรา คุยกันมิได้ รวมทั้งมีหลายท่าที่เป็นการฝ่าฝืนธรรมชาติของม้า จะต้องใช้ความรู้

สำหรับการบังคับม้า ทำให้เสน่ห์ของการขี่ม้าจำพวกนี้เป็น คนบวกม้าที่เข้ากันได้ เข้ากันได้งาม ทำให้พวกเราบาลานซ์ตนเอง คนขี่ม้าจะข้างหลังงอมิได้ จะต้องนั่งหลังตรง ใช้สมาธิ ฝึกหัดจิตใจ” เด็กหญิงคนเก่ง น้องเพิร์ธ – เด็กหญิงภวิตา รุ่งเลิศยิ่งใหญ่ ซึ่งทำสกอร์สูงสุดสำหรับ

ในการชิงชัยคราวนี้ บอกว่า “หนูเริ่มขี่ม้าตั้งแต่อายุ 8 ขวบ รวมและก็ขี่มากมายว่า 5 ปีแล้ว ถึงแม้ตอนต้นจะกลัวและก็เขินอยู่บ้าง แต่ว่าการได้สัมผัสและก็ขี่ม้าเสมอๆได้ทำให้หนูได้เรียนทำความเข้าใจและก็รู้จักกับม้า ในการฝึกฝน เพื่อมาชิงชัยคราวนี้ ข้างหลังเลิกเรียนหนูจะซ้อมทุกๆวัน

วันละหนึ่งชั่วโมง ม้าตัวเก่งของหนูชื่อ เดชะนี อายุ 9 ปี เป็นม้าที่หนูรักและก็วางใจมากมาย ซึ่งวันนี้บารมีนีก็เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่ทำให้หนูได้รับชัย เนื่องจากกว่ากำลังจะถึงวันนี้ ทั้งยังหนูรวมทั้งเดโชนีทุ่มเทมากมาย เราเดินทางมาจาก จังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลากว่าสิบชั่วโมง

เพื่อมาร่วมชิงชัยคราวนี้ กลเม็ดของหนูเป็นการฝึกฝน อย่างตั้งใจทุกวัน ถัดไปหนู ก็จะตั้งอกตั้งใจสำหรับเพื่อการฝึกเพื่อลงแข่งขันในสนามถัดไปอีกเรื่อยจ้ะ ซึ่งทางด้านครอบครัวของหนู ก็ให้การเกื้อหนุนอย่างยอดเยี่ยมยิ่ง ต้องการที่จะให้ผู้ที่พึงพอใจกีฬาขี่ม้าอย่างหนู ลองขี่ม้ามองจ้ะ

เพราะว่าไม่เพียงแค่เป็นประโยชน์ทางด้านร่างกายรวมทั้งสมาธิที่จะดียิ่งขึ้นแล้ว ยังอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีจังหวะลงแข่งขันรวมทั้งเอารางวัล เป็นเกียรติแก่ผู้ที่พวกเรารักอีกจ้ะ” น่าจะดีถ้ากีฬาขี่ม้า ได้เป็นเลิศในกีฬาที่ใช้ขับ