ต่อจากบทความก่อน บารอนแห่งลอสแอนเจลิส ทางการเป็นนักกีฬาขี่ม้าของร้อยโททาเคอิจิ

ต่อจากบทความก่อน มันเริ่มขึ้นในปี 1930 เขามีภารกิจ ด้านทหารจำเป็น ต้องเดินทาง สู่ทวีปยุโรป ขณะที่กำลังทำธุระที่ประเทศอิตาลี เจอกับม้าแข่งชื่อ “ยูเรนัส” เช่นหนุ่มเจอรักคราวแรก เขารู้เท่าทันหน ว่าเจ้าม้าตัวนี้ เป็นคู่ทุกข์คู่ยากที่เกิดมาเพื่อกันและกัน

ทาเคอิจิติดต่อกองทัพประเทศญี่ปุ่น เพื่อเบิกงบประมาณหลวงขอซื้อเจ้ายูเรนัส แต่ถูกไม่ยอมรับ เขาก็เลยใช้เงินส่วนตัวซื้อม้าตัวนี้มาครอง เมื่อมีชื่อเสียงเป็นนายจ้างของยูเรนัส ทาเคอิจิลืมภารกิจด้านทหาร ออกเดินทางแข่งไปทั่วยุโรป

เขากับม้าคู่ใจ ทำผลงานก้าวหน้า กระทั่งกองทัพ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มเห็นผลงาน ปี 1932 ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น ร้อยเอก แล้วก็ได้รับคำบัญชาให้ลงแข่งขันกีฬาขี่ม้า ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่เมืองลอสแอนเจลิส อเมริกา ผู้ที่น่ายกย่อง

การเดินทางสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่มีความต่างกับ ปลดปล่อยเสือเข้าป่า เป็นอิสระ จากหน้าที่ ทางการทหาร และก็ภาระหน้าที่ ใต้ตำแหน่งบารอน เขาดำเนินชีวิต อย่างอิสระ แล้วก็หรูหรา ในลอสแอนเจลิส ทุกเมื่อเชื่อวัน จะขับขี่รถ Packard เปิดประทุน เพื่อซ้อมขี่ม้าที่ Riviera Country Club สนามกอล์ฟส่วนตัวของเหล่าคนรวยในแอลเอ

เมื่อพระอาทิตย์ลับฟ้า รถยนต์เปิดหลังคาคู่ใจ ของทาเคอิจิ จะออกยกย่อง แสงสียามวิกาล ของลอสแอนเจลิส เนื่องด้วยดำรงชีวิตที่ยุโรปที่ผ่านมา พูดอังกฤษได้ อย่างกระชุ่มกระชวย เมื่อบวกกับพื้นเพเครือญาติเจ้าขุนมูลนายดั้งเดิม เขาได้เรื่องต้อนรับอย่างยอดเยี่ยมจากศิลปินในฮอลลีวูด

ทาเคอิจิคบหาสมาคมกับดาราหนังโด่งดัง ดังเช่น เซอร์ ชาร์ลี แชปลิน ผู้กำกับ แล้วก็ดาวตลกมีชื่อ, แมรี พิกฟอร์ด นางเอกผู้ครอบครองสมญานาม America’s Sweetheart แล้วก็ ดักลาส แฟร์กางงส์ ราชาที่ฮอลลีวูด ผู้แสดงนำชายลำดับที่หนึ่งสมัยหนังเงียบ

ต่อจากบทความก่อน

เมื่อคุณเป็นเพื่อนกับศิลปินแถวหน้าของฮอลลีวูด

ไม่ใช่เรื่องน่าอัศจรรย์ถ้าหาก จะแปลงเป็นคนญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงที่สุด ในอเมริกา หนังสือพิมพ์เผยแพร่ เรื่องของนายทหาร ไลฟ์สไตล์เพลย์บอย ที่หันหลังแก่ภรรยา และก็ลูกอีก 2 คน เนื่องด้วย หลงระเริง กับงานงานเลี้ยง ของศิลปิน รวมทั้งนายทหารชั้นสูง จากประเทศอื่น กีฬาขี่ม้า

ความจริง ทาเคอิจิ ไม่ได้ตั้งใจกลายเป็น ข่าวซุบซิบ ในหนังสือพิมพ์เบิกบาน การขับรถยนต์หรู เดินทางทั่วทั้งเมือง เป็นภารกิจเที่ยวตรวจ เพื่อเก็บข้อมูล ในเมืองลอสแอนเจลิส แต่ว่าด้วย ความถนัดการเข้าสังคม ที่อยู่คู่ชนชั้นนำอย่างเขา ทาเคอิจิกลายเป็น ทหารเพลย์บอยใน สายตาคนธรรมดาทั่วไป ทั้งๆที่อีกด้าน ทาเคอิจิ ไม่เคยขาดการฝึกหัด รวมทั้งใช้เวลา อย่างเต็มเปี่ยม กับเพื่อนรักของเขา เจ้ายูเรนัส

14 เดือนสิงหาคม ปี 1932 การประลองวันสุดท้าย ของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่ลอสแอนเจลิส ผู้ชมราว 100,000 คน อัดแน่นเต็มสนามโอลิมปิก สเตเดียม เพื่อร่วมเป็นส่วนใด ส่วนหนึ่ง ของพิธีการปิด รวมทั้ง การแข่งขันชิงชัยกีฬาขี่ม้า สายตาทั้งสิ้นจ้องมาที่ ไม่มีผู้ใดมี ความรู้สึกว่าเขาจะชนะ คนประเทศอเมริกา เพียงแค่ต้องการรู้ว่า ทหารเพลย์บอย คนประเทศญี่ปุ่น รายนี้จะทำเป็นดีเพียงใด ?

ทาเคอิจิไม่เพียงแค่แสดง แม้กระนั้นทำในสิ่งที่ผู้ชมคิดไม่ถึง ช่วงเวลาที่ผู้แข่งขัน 6 จาก 8 ราย ไม่สามารถที่จะขี่ม้าผ่านเครื่องกีดขวาง จนกระทั่งจบการประลองโดยไม่เข้าเส้นชัย ทาเคอิจิ กับ ยูเรนัส โลดแล่นบนพื้นหญ้า อย่างกับนักบัลเลต์กำลังร่ายรำ เขาผ่านเครื่องกีดขวาง 18 ชิ้น ก่อนเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2 นาที 42.2 วินาที คว้าตำแหน่งเหรียญทองมาครอบครอง

เสียงตบมือดังกังวาลโอลิมปิก สเตเดียม หน้าหนังสือพิมพ์ป่าวประกาศ “หนึ่งในความมีชัยที่เซอร์ไพร์สที่สุดในประวัติศาสตร์โอลิมปิก” ผู้คนทั่วสหรัฐฯเรียก ว่า “บารอน นิชิ” ไลฟ์สไตล์เพลย์บอย ที่เคยกลายเป็น ข่าวซุบซิบ เปลี่ยนเป็นเซเลบริตี้ที่ทุกคนตกหลุมรัก ในฐานะนักกีฬาผู้เปี่ยมความรู้ความเข้าใจ และก็มีอัธยาศัยกับคนอเมริกัน

เป็นหวานใจ ของชาวต่างชาติ ถึงกับได้รับตำแหน่ง “ชาวเมือง กิตติมศักดิ์ ที่เมืองลอสแอนเจลิส” ช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อเดินทางกลับ ถึงประเทศญี่ปุ่น เขาถูกแต่งตั้ง เป็นคุณครูสอนขี่ม้า ที่สถานที่ เรียนจัดเตรียมทหาร เพื่อเป็นต้นแบบ ของนายทหาร ผู้รักชาติ รวมทั้งสร้างความภาคภูมิแก่จักรวรรดิประเทศญี่ปุ่น ในฐานะนักกีฬาประเทศญี่ปุ่นคนแรกซึ่งสามารถคว้าเหรียญทองจากกีฬาขี่ม้า ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ดูบอลสด