อลีสซงพลาด ลิเวอร์พูลฟอร์มวิกฤติอย่างมาก ปราชัยติดอยู่แอนฟิลด์ให้ แมนฯซิตี้ขาดลอย1-4 นับเป็นการแพ้ในบ้าน 3ครั้ง

อลีสซงพลาด ลิเวอร์พูลฟอร์มวิกฤติอย่างมากปราชัยติดอยู่แอนฟิลด์ให้ แมนฯซิตี้ ขาดลอย 1-4 นับเป็นการแพ้ในบ้าน 3 ครั้งต่อๆ กันในลีก เกมนี้ อิลคาย กุนโดกัน เหมาผู้เดียวสองประตูส่งให้ “เรือใบสีฟ้า”

ที่แข่งขันน้อยกว่าหนึ่งนัดหมายนำผู้นำฝูงโด่งหนีแมนยูไนเต็ด 5 คะแนน รวมทั้งหนีแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ที่รั้งอันดับ 4 ถึง 10 แต้ม ในเกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้

“บิ๊กแมตช์” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุกวันอาทิตย์ที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้าที่ผ่านมา เป็นการเจอกันระหว่างแชมป์เก่า หงส์แดง ซึ่งรั้งอันดับ 4 เปิดแอนฟิลด์จัดการผู้นำฝูงแมนเชสเตอร์ซิตี้

อลีสซงพลาด โดยครั้งแรกเมื่อต้นเดือนเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา เท่ากันมา 1-1 ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ช่วงเวลาที่ฟอร์มปัจจุบันในลีกนั้น “ลิเวอร์พูล” แพ้คาบ้านให้ ไบรท์ตัน 0-1

ซึ่งเป็นการแพ้ในแอนฟิลด์สองครั้งติดต่อกัน ตรงกันข้ามกับผลงานของ “เรือใบสีฟ้า” ที่ชนะรวดมา 13 เกมติดทุกรายการ ปัจจุบันสมาชิกของเป๊ปบุกไปอัด เบิร์นลี่ย์ 2-0 เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่เสี่ยงใช้งานเซ็นเตอร์แบ็กรายใหม่

โดยให้ โอซาน คาบัค เป็นเพียงแค่สำรองในขณะที่ เบน เดวิส ไม่มีชื่อในเกมนี้ซึ่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะยืนคู่ข้างหลังร่วมกับ ฟาบินโญ่ ดินแดนกึ่งกลางให้ เคอร์ติส โจนส์ พอดีจริงอยู่ อลีสซงพลาด

อลีสซงพลาด หลังสามผสานทั้งยัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ แล้วก็ซาดิโอ มาเน่ ส่วนทางฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีเพียงแค่ เควิน เดอ บรอยน์ ผู้เล่นคนสำคัญตัวเก่งที่บาดเจ็บ

แต่ไม่มีปัญหาเหตุเพราะ อิลคาย กุนโดกัน ชดเชยรวมทั้งสร้างสรรค์เกมรุกได้ดีโดยวันนี้ปั้นเกมช่วยเหลือ ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง รวมทั้งฟิล โฟเด้น เปิดตัวมาได้เพียงแค่ 2 นาที ติอาโก้ ไปเสียบใส่ด้านหลัง

อิลคาย กุนโดกัน จนกระทั่งโดนใบเหลืองไปก่อนอย่างเร็ว เกมตอน 20 นาทีแรก เล่นกันใกล้เคียงค่อนข้างจะทันกัน ทั้งคู่กลุ่มเพรสกันหนัก กระนั้นถึงแม้เรือใบสีฟ้า จะครอบครองเกมได้มากกว่า แต่ว่าก็ยังไม่มีจังหวะเจาะเข้าไปในพื้นที่อันตราย เหมือนกันกับลิเวอร์พูล

จังหวะแรกของ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องรอคอยถึงนาที 25 ข้างหลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โยกหลอกแนวรับซิตี้ก่อนครอสมาให้ ซาดิโอ มาเน่ วิ่งมากระแทกไม่ถึงเส้น 6 หลา บอลพุ่งกลางประตูเหาะคานออกไป นาที 29 “ลิเวอร์พูล” เริ่มจู่โจมได้เรื่อยและก็แทบได้ลุ้นขึ้นนำข้างหลัง

เฮนเดอร์สัน ตักเข้าไปในกรอบโดน รูเบน ดิอ๊าซ โขกทิ้งมาเข้าทางปืน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ วิ่งมาวอลเลย์ไม่จับบอลพุ่งจะหมุดแรงกระทั่ง เอแดร์ชอน จำต้องปัดข้ามคานออกไป นาที 36 แมนฯซิตี้ มาได้ลูกที่จุดลูกโทษข้างหลัง ฟาบินโญ่ ยื่นขาข้างหลังไปขวางการเล่นของ ราฮีม สเตอร์ลิง

จนกระทั่งล้มลง ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เป่าให้จุดลูกโทษแก่กลุ่มเยี่ยมโดยทันที แต่ อิลคาย กุนโดกัน ที่รับหน้าที่สังหารดันยิงด้วยขวาเหินคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง ทำให้สกอร์ยังเท่ากัน 0-0 อย่างเดิม นาที 43 ซาดิโอ มาเน่ โดนยกเอา กานเซโล่ ฟาวล์นอกกรอบผู้ตัดสินเป่าให้ฟาวล์ย้อนไป

อลีสซงพลาด ก่อนที่จะ ตำหนิอาโก้ จะปั่นระยะไม่ถึง 18 หลาบอลไปแฉลบกำแพงออกข้างหลัง และจากลูกเตะมุม เทรนท์ เปิดมาเข้าหัว ซาดิโอ มาเน่ แม้กระนั้นกระแทกไปตรงตัว เอแดร์ซอน รับเข้าซองไว้ได้ กีฬาขี่ม้า

อลีสซงพลาด 

ลิเวอร์พูลมาเสียเม็ดลำดับที่สี่สม่ำเสมอข้างหลังบอล

อลีสซงพลาด จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ ลิเวอร์พูลยังเสมอกับแมนฯซิตี้0-0 ช่วงหลัง เริ่มมาแค่นาครั้ง 49 เปลี่ยนเป็น แมนฯซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากความยอดเยี่ยมของ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่เลื้อยผ่าน ดูบอลสด

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนเฉือนเข้ากึ่งกลางให้ ฟิล โฟเด้น ซัดไปติดมือ อลีสซง แต่ว่าปัดไปเข้าทาง กุนโดกัน ตามมาซ้ำเสยตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ แก้ตัวได้เสร็จข้างหลังพลาดจุดลูกโทษในครึ่งแรก

นาที 55 ฟีร์มีโน่ พาบอลขึ้นมาก่อนป้ายออกขวาให้ เคอร์ติส โจนส์ ดึงบอลหนีแล้วอัดด้วยขวานอกกรอบแต่ว่าบอลพุ่งผ่านคานออกไปแบบหมดลุ้น อีกสองนาทีต่อมา โจนส์ ได้ช่องอีกทีข้างหลังรับบอลจ่ายยาวของ เทรนท์ ก่อนปั่นไปเสาไกลบอลไปไถลแนวรับซิตี้ออกข้างหลัง

นาที 62 หงส์แดง มาได้จุดลูกโทษคืนบ้างข้างหลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะหลุดผู้เดียวเข้าไปก่อนโดน รูเบน ดิอ๊าซ ดึงล้มลงในจุดโทษ ผุ้วินิจฉัยเป่าให้จุดลูกโทษ ก่อนที่จะ ซาลาห์ จะยืนขึ้นมาฆ่ายิงเข้าไปไม่พลาดให้ “ลิเวอร์พูล” ไล่ตีเสมอ ซิตี้ 1-1 แล้วก็เป็นประตูที่ 16 นำดาวซัลโวของลีกในฤดูกาลนี้

นาที 71 ฟิล โฟเด้น เปิดยาวไปหน้าประตู จอห์น สโตนส์ ล้มตัวยิงผ่านมืออลีสซงเข้าไปแล้ว แต่ว่าผู้ตัดสินไม่ให้ประตูเนื่องมาจากเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน ซึ่งวีเออาร์ก็ยืนยืนว่าเป็นล้ำหน้า นาที 73 “เรือใบสีฟ้า” มาแซงขึ้นนำ 2-1 อีกรอบ จากข้อผิดพลาดของ อลีสซง ที่เปิดไม่ดีไปติด ฟิล โฟเด้น

ลากเลื้อยหนีแนวรับจนกระทั่งเส้นข้างหลังก่อนเฉือนมาหน้าประตูให้ อิลคาย กุนโดกัน ยิงเข้าไปง่ายไม่ถึงสองหลา นาที 77 อลีสซง เบ็คเกอร์ เสมือนหมดความแน่ใจ มาพลาดง่ายๆอีกลูกข้างหลังจ่ายจากหน้าปากประตูไปให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ก่อนที่จะปีกชาวโปรตุกีสจะยกมาเสาไกลให้ ราฮีม สเตอร์ลิง

กระแทกเข้าไปง่ายๆให้ แมนฯซิตี้ นำห่าง 3-1 นาที 83 ลิเวอร์พูล มาเสียเม็ดลำดับที่สี่สม่ำเสมอข้างหลังบอลจาก กาเบรียล เชซุส วางไปด้านขวาให้ ฟิล โฟเด้น ลากเข้ามาซัดแสกหน้าอลีสซงเข้าไปอย่างเด็ดขาดให้ เรือใบสีฟ้า บุกมานำขาด 4-1 จบเกม ลิเวอร์พูล แพ้คาบ้านให้ แมนฯซิตี้ ขาดลอย 1-4

เป็นการแพ้ค้างแอนฟิลด์ 3 นัดหมายติด ส่งให้ แมนฯซิตี้นำผู้นำฝูงถัดไป โดยทิ้งอันดับ 2 “ผีแดง” 5 คะแนน และก็ทิ้งแชมป์เก่า “ลิเวอร์พูล” ที่รั้งอันดับ 4 ไปไกลถึง 10 คะแนนแล้ว แถมมีเกมในมืออยู่อีกหนึ่งนัดหมาย รายนามผู้เล่นทั้งคู่กลุ่ม หงส์แดง (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์,

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอสแตนตินอส ซิมิคาส น.85) – เคอร์ติส โจนส์ (เจมส์ มิลเนอร์ น.68), ติอาโก้ อัลคันทาร่า (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.68), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

อลีสซงพลาด แมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ชูเอา กันเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – แบร์นาโด้ ซิลวา, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ (กาเบรียล เชซุส น.72), ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิล โฟเด้น หงส์มีลุ้นขึ้นที่3