โชคร้ายคนไม่ใช่น้อย ถึงเวลาทำเงินเข้าชมรม “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง พร้อมโละ 8 ผู้เล่นพ้นกลุ่มตอนซัมเมอร์นี้

โชคร้ายคนไม่ใช่น้อย โดยมีหน้าแข้งดังหลายท่านอยู่ในลิสต์ หงส์แดง สมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ที่เวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมที่จะใคร่ครวญขายนักฟุตบอลข้างในกลุ่ม 8 คนตอนซัมเมอร์นี้ ซึ่งก็รวมทั้งลำแข้งดาวดังอย่าง เซอร์ดาน ชากิรี่, ทาคูมิ มินามิโนะ และก็ นาธาเนียล ฟิลลิปส์

ตามรายงานจาก โกล สื่อลูกหนังมีชื่อ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ก.ค. ก่อนหน้าที่ผ่านมา เว้นเสียแต่สามหน้าแข้งดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นแล้ว “ลิเวอร์พูล” หวังโละ เนโก วิลเลี่ยมส์, แฮร์รี่ วิลสัน, มาร์โค กรูยิช, ลอริส คาริอุส รวมทั้ง ดิว็อค โอริกี้ เหมือนกัน

แต่ว่าในรายหลังสุดผู้จัดการทีมฟุตบอล เจอร์เก้น คล็อปป์ บางครั้งก็อาจจะเลือกเก็บเอาไว้ในฐานะแผงหน้าตัวแบ็กอัพ โกล กล่าวว่า หงส์แดง อยากทำเงินเข้าสมาคม เพื่อเอามาล่าผู้เล่นคนใหม่ กีฬาขี่ม้า

ภายหลังที่ได้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กองหลังตัวกลาง ร่างใหญ่ชาวประเทศฝรั่งเศส (จาก แอร์เบ ไลป์ซิก) มาเสริมแนวรับเป็นระเบียบเรียบร้อยหนึ่งราย ดังนี้ คล็อปป์ มีแผนในการที่จะเสริมกองทัพในตำแหน่งกองกลางตัวกลาง รวมทั้งผู้เล่นตัวรุก

อิตาลีฮึกเฮิม

โชคร้ายคนไม่ใช่น้อย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ฟันธงคนไหนกันแน่มีแววซิวแชมป์ยูโรมากมายสุด

ดิ อนาไลส์ กระทำพินิจพิจารณาทางของศึก ยูโร 2020 ด้วยการใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งพวกเขาเห็นว่า อิตาลี ได้โอกาสได้แชมป์เยอะที่สุด รองลงมาเป็น อังกฤษ กลุ่มชาติอิตาลีเป็นกลุ่มที่เป็นไปได้อย่างมากที่สุดที่กำลังจะได้แชมป์ ยูโร 2020 ไปครอบครองในตอนปลาย ด้วยปริมาณ 39.1 เปอร์เซ็นต์

ตามวิธีการทำนายด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ ดิ อนาไลส์ เว็บแนวพินิจพิจารณาสถิติและก็พยากรณ์ผลที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันรายหนึ่ง แนวทางการทำนายดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมีต้นเหตุมาจากการวิเคราะห์ผลงานต่างๆของแต่ละกลุ่มในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา

ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นี้ อิตาลี ส่งผลงานที่สะดุดตา หลังจากที่ชนะรวดทั้งยัง 3 นัดหมายในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนในรอบก่อนรองชนะเลิศก็ผ่านกลุ่มที่อดทนอย่าง เบลเยียม มาได้ ดังนี้ อังกฤษ ถูกคิดว่าได้โอกาสที่กำลังจะได้แชมป์สูงที่สุดเป็นชั้น 2 ที่ปริมาณ 29.2 เปอร์เซ็นต์

โดยที่แท้สำหรับการพินิจพิจารณาคราวนี้นั้นพวกเขาให้ “สิงโตคำราม” ได้โอกาสไปถึงรอบชิงแชมป์ได้มากกว่า “อัซซูรี่” ด้วย จากการที่ อังกฤษ พบกับ เดนมาร์ก ซึ่งมองไม่แกร่งพอๆกับที่ อิตาลี จำต้องพบกับ ประเทศสเปน

ดูบอลสด

มอร์เท่น โอลเซ่น : ผู้เพาะบ่มเมล็ดพันธุ์ เดนมาร์ก

“พวกเราเล่นกันได้แย่ชิบหาย” เป็นสิ่งที่ มอร์โก้เก๋น โอลสังเวย สมัยก่อนผู้ฝึกสอนกลุ่มชาติเดนมาร์กเคยบอกเอาไว้เมื่อตอนมกราคม ปี 2004 ในช่วงเวลานั้น โอลสังเวย เข้ามาคุมกลุ่มชาติเดนมาร์กได้ราว 4 ปีแล้ว และก็ขณะที่ว่านั้นก็ทำให้เขาแลเห็นภาพรวมทุกสิ่งทุกอย่างแทบทะลุปรุโปร่ง

ซึ่งก็คือแวดวงบอลเดนมาร์กกำลังจะมีภาวะเหลวตุ้มเป๊ะ, ไม่มีอนาคต และก็ไกลห่างจากอดีตกาลที่พวกเขาเคยไปไกลถึงการเป็นแชมป์ ยูโร 1992 จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นตำนานเทพนิยายเมืองเดนส์ที่ยังถูกกล่าวขวัญกันมาจนถึงทุกวันนี้

แต่เดิมโอลเซ่น ก็เป็นตำนานของแวดวงบอลเดนมาร์กตั้งแต่ยุคที่ยังเป็นนักฟุตบอลอยู่แล้ว ภายหลังเขาเคยเล่นให้ภูมิลำเนาไปถึง 102 นัดหมาย ในตอนระหว่างปี 1970-1989 รวมทั้งเคยเป็นนักฟุตบอลดีเลิศที่ปีของ เดนมาร์ก 2 ยุค

แถมยังสร้างชื่อให้ภูมิลำเนาจากการยอดเยี่ยมในขุนศึก อันเดอร์เลชท์ ชุดแชมป์ ยูฟ่า คัพ (ยูโรปา ลีก ในตอนนี้) เมื่อฤดู 1982-1983 ด้วย “พวกเราสร้างนักฟุตบอลเก่งๆออกมาได้ไม่เพียงพอ แถมพวกเราเองก็ไม่มีการฝึกอบรมผู้ฝึกสอนที่ดีด้วย

บรรดานักฟุตบอลไม่คิดกันแบบรวดเร็วมากพอ ประสิทธิภาพการส่งบอลก็ห่วยแตก และก็พวกเขาก็ช้าเกินความจำเป็น ฟอร์มแบบงี้น่ะเพียงพอจะเล่นในลีกเดนมาร์กไหว แม้กระนั้นมันไม่มากพอถ้าเกิดพวกเราต้องการจะขึ้นไปสู่จุดสุดยอด” ดูบอลสด

เป็นคำบอกเล่าเสริมเติมที่โอลเซ่น บอกไว้ในในเวลานั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าว ต่อไปโอลเซ่น รวมทั้ง เคลด์ บอร์ดิงก์การ์ด ผู้ช่วยของเขาขณะนั้นเลยตกลงใจที่จะระดมความคิดเห็นกับผู้ฝึกสอนเก่งๆภายในประเทศเดนมาร์กเพื่อหาทางออกให้กับแวดวงบอลของประเทศ

รวมทั้งหนึ่งในผู้ฝึกสอนเก่งๆที่ได้ร่วมทำเบรนสตอร์มกันในตอนนั้นก็ไม่ใช่คนไหนกันอื่น แต่ว่าเป็น แคสเปอร์ ฮูลมานด์ ผู้ฝึกสอนกลุ่มชาติเดนมาร์กคนปัจจุบันนี้นั่นเอง โดยที่เวลานี้ ฮูลมานด์ ยังเป็นเพียงแค่หัวหน้าฝ่ายอะคาเดมี่ของ แลงบี้

กลุ่มในเดนมาร์ก “มันมีบางครั้งบางคราวที่พวกเราจำต้องเดินทางไปอยู่ที่อื่นๆ 3 หรือ 4 วัน เพื่อคุยกับเหล่าผู้ฝึกสอนฝีมือเยี่ยม แคสเปอร์ เป็นหนึ่งในผู้ที่เยี่ยมที่สุด แม้กระนั้นมันก็ยังมี โธมัส แฟร้งค์ ที่ในขณะนี้คุม เบรนท์ฟอร์ด กับ โยฮัน แลงก์ ที่ในตอนนี้เป็นผู้อำนวยการกีฬาของ แอสตัน วิลล่า ด้วย”

บอร์ดิงก์การ์ด เจาะจง ในที่สุดแล้วการระดมความเห็นกันในคราวนั้นก็ทำให้โอลเซ่น เห็นว่า เดนมาร์ก จึงควรเปลี่ยนรูปแบบการเล่น แต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วย

โดยที่ บอร์ดิงก์การ์ด เปิดเผยว่า “ไอเดียของพวกเรามิได้รับการยินยอมรับ มันมีความไม่ลงรอยอย่างมาก กระทั่งด้านในสหภาพคุ้นเคยก็ตาม พวกเขาเห็นว่าพวกเราคิดตื้นเกินความจำเป็น บางบุคคลมีความรู้สึกว่าหากพวกเราต้องการจะดวลกับกลุ่มใหญ่ให้ได้แล้วล่ะก็ พวกเราก็จะต้องเล่นเกมรับกันแบบสุดชีวิตเพื่อไปถึงจุดสุดยอดให้ได้”

แน่ๆว่าวิถีทางนั้นเคยทำให้ เดนมาร์ก ได้แชมป์ ยูโร 1992 มาครอบครอง แต่ว่าในช่วงเวลานี้มันใช้สมองอย่างงั้นมิได้แล้ว ทำให้ท้ายที่สุดแล้วในปี 2005 มันก็เริ่มมีการปฏิบัติการโปรเจกต์ที่เรียกว่า “เดอะ นิว เวย์ มันเป็นโปรแกรมการซ้อมที่จะทำให้เด็กๆได้เล่นกับบอลมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเด็กๆจะได้เล่นในเกมที่แบ่งเป็นกลุ่มละ 3 คน แถมสนามก็จะมีขนาดเล็กกว่าธรรมดาด้วย มันจะมีผลให้พวกเขาได้โอกาสได้รียนรู้มากยิ่งกว่าเดิม แล้วก็เพียงพอบรรดาดาวรุ่งเก่งๆมารวมตัวกันในระดับเยาวชนแล้วน่ะพวกเราก็จะมีพื้นฐานสำหรับเพื่อการปฏิบัติการไปสู่ขั้นต่อไป” อิตาลีฮึกเฮิม

หนึ่งในผลิตผลจากกลยุทธ์ซึ่งก็คือ คริสเตียน เอริคเซ่น หากว่าตอนศึก บอลโลก 2010 เดนมาร์ก จะหยุดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม แม้กระนั้น เอริคเซ่น ที่ในขณะนั้นแก่ 18 ปีก็มีความก้าวหน้าที่สะดุดตา

ก่อนที่จะในเวลาถัดมาจะมีอีกหลายท่านที่ได้ประโยชน์จากระบบใหม่จนได้ไปอยู่กับกลุ่มดังของทวีปยุโรป เช่น อันเดรียส คริสเตนเซ่น ที่ไปอยู่กับ เชลซี และก็ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ที่เคยไปฝึกฝนฝีเท้ากับ บาเยิร์น มิวนิค

ก่อนที่จะปัจจุบันนี้จะมาเล่นให้ สเปอร์ส ฮอยเบิร์ก เคยให้สัมภาษ์กับสื่อในเดนมาร์กเมื่อก่อนว่า “ผมต้องการจะกล่าวว่าผมกระหยิ่มใจที่ได้ผ่านระบบที่พวกเราเรียกกันว่า สถานที่เรียนของ มอร์เท่น โอลเซ่น

มอร์เท่น คงจะได้โอกาสได้เพลิดเพลินใจกับสิ่งที่เขาเพาะบ่มขึ้นมา ผมนึกถึงบรรดานักฟุตบอลหลายท่านที่กำลังเล่นก้าวหน้ากับกลุ่มในต่างชาติ รวมทั้งกับกลุ่มรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี พวสกเขาคงจะโชว์ฝีเท้าในจุดสุดยอดได้ด้านใน 5 หรือ 6 ปี”

โชคร้ายที่โอลเซ่น ไม่มีช่องทางได้เอ็นจอยกับผลิตผลของเขาโดยตรง เนื่องจากว่าเจ้าตัวลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมกลุ่มชาติเดนมาร์กไปในปี 2015 จากการที่ในเวลานั้น