ทอดสะพานทริปเปียร์ คีแรน ทริปเปียร์ ตัวบุกปีกขวา แอต. มาดริด แอบบอกกับสหายร่วมกลุ่มว่าพึงพอใจที่จะมาซบ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนซัมเมอร์นี้

ทอดสะพานทริปเปียร์ ตามรายงานของ เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ โดยก่อนหน้าที่ผ่านมาก็มีข่าวสารว่าเขากำลังตามหาบ้านแถวตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษเช่นเดียวกัน

คีแรน ทริปเปียร์ ตัวบุกปีกขวากลุ่มชาติอังกฤษจาก แอตเลติโก มาดริด บอกกับเพื่อนพ้องร่วมกองทัพ “สิงโตคำราม” ว่าเขาพึงพอใจที่จะย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนซัมเมอร์นี้

ตามการเปิดเผยของ เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นข่าวสารเกี่ยวกับการใส่ใจในตัวทริปเปียร์ มานานแล้ว โดยแม้ว่า อารอน วาน-บิสซาก้า ตัวบุกปีกขวาตัวจริงของพวกเขาจะมีเกมรับที่สะดุดตา แต่ว่าเจ้าตัวก็โดนว่ากล่าวตลอดมาว่าเล่นเกมรุกได้ไม่ดีซักเท่าไหร่

ดังนี้ เดอะ ซัน พูดว่าในความเป็นจริงแล้ว แอต. มาดริด ยังเห็นว่าทริปเปียร์ เป็นตัวหลักของกลุ่ม ภายหลังที่เขามีส่วนทำให้กลุ่มได้แชมป์ ลา ลีกา ในฤดูกาลปัจจุบัน แต่ว่าจอมบุกวัย 30 ปีก็พึงพอใจย้ายไปเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน

ถ้าหากได้คำแนะนำที่ราว 15-20 ล้านปอนด์ (ราวๆ 600-800 ล้านบาท) โดยเดี๋ยวนี้หน้าแข้งวัย 30 ปียังเหลือคำสัญญากับ “ตราหมี” จนกระทั่งตอนกลางปี 2023 รวมทั้งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็มีข่าวซุบซิบว่าทริปเปียร์ มองหาบ้านในทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะอังกฤษแล้วแบบเดียวกัน

ซึ่งเทศเขตเกรทเตอร์ แมนเชสเตอร์ก็อยู่ในเขตดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นพอดิบพอดี

ทอดสะพานทริปเปียร์ เปรียบเทียบ 2 ฤดูกาลที่ทำให้ เดอ บรอยน์ ได้รางวัลหน้าแข้งเยี่ยมยอด พีเอฟเอ

นับเป็นเกียรติขั้นที่ยิ่งใหญ่สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางคนเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายหลังที่เขาได้คะแนนโหวตจากสหายพ่อค้าลำแข้งร่วมกันให้เป็นคนได้รางวัลนักฟุตบอลดีเยี่ยมที่สุดประจำฤดู 2020-21 ของชมรมนักเตะอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ)

ภายหลังที่ทำผลงานได้สะดุดตากระทั่งมีส่วนทำให้กลุ่มได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปเชยชม นี่ทำให้ เดอ บรอยน์ ได้รางวัลอันมีเกียรตินี้เป็นยุคที่ 2 ต่อเนื่องกัน ซึ่งเขาก็นับว่าเป็นนักฟุตบอลผู้ที่ 3 ในประวัติศาสตร์เพียงแค่นั้นซึ่งสามารถทำแบบนั้นได้

โดยคนแรกเป็น เธียร์รี่ อองรี ที่ทำเป็นกับ อาร์เซน่อล ในช่วงฤดูกาล 2002-03 กับ 2003-04 ส่วนผู้ที่สองเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำเอาเอาไว้ภายในตอนเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2006-07 กับ 2007-08

ดังนี้ วันนี้พวกเราจะฉวยโอกาสนี้มาทดลองเทียบกันสักนิดว่าผลงานในเกมบุกของ เดอ บรอยน์ สำหรับการลงเล่นเกมลีกระหว่างฤดู 2019-20 กับ 2020-21 นั้น มันต่างกันเพียงใด โดยจำนวนกลุ่มนี้ได้จาก เว็บแนวบันทึกสถิติยอดนิยม

เดอ บรอยน์ เป็นนักฟุตบอลที่เล่นได้ทั้งยังตำแหน่งกองกลางตัวกลางและก็ตัวขอบเส้น ซึ่งนั่นทำให้เขามีความรู้สำหรับเพื่อการเลี้ยงบอลที่สะดุดตาเช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วงฤดูกาลนี้เขาเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งขันได้เฉลี่ย 1.9 ครั้งต่อเกม

โดยเขาทำเป็นดีมากกว่าฤดูกาลที่แล้วที่ทำไป 1.4 คราวต่อนัดหมายด้วย แต่ ถ้าหากเอ๋ยถึงความแน่นแฟ้นสำหรับการครอบครองบอลแล้วล่ะก็ ฤดูกาลที่แล้วตัวรุกชาวเบลเยียมทำเป็นดีมากกว่า

เนื่องจากฤดูนี้เขาโดนคู่ปรปักษ์ฉกบอลไปจากเท้า 1.3 คราวต่อเกม ส่วนฤดูกาลที่แล้วโดนไปเพียงแต่ 0.9 ครั้งต่อนัดหมาย

แถมฤดูกาลนี้เขายังจับบอลพลาดกระทั่งทำให้บอลลั่นไป 1.8 ครั้งต่อเกมด้วย

ต่างกับฤดูก่อนทำไป 1.3 ครั้งต่อนัดหมาย นี่เป็นข้อดีของ เดอ บรอยน์ เนื่องจากเขาขึ้นชื่อลือนามประเด็นการปั้นเกมได้อย่างดียิ่งรวมทั้งผ่านบอลได้อย่างยอดเยี่ยมกระทั่งทำให้เพื่อนฝูงร่วมกลุ่มทำคะแนนได้แบบไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ท่ายากเยอะแยะอะไรนัก

โดยฤดูกาลปัจจุบันเขาทำไป 12 แอสซิสต์ แม้กระนั้นในความเป็นจริงแล้วมันก็เทียบกับฤดูกาลก่อนที่จะทำไปถึง 20 แอสซิสต์มิได้เลย ยิ่งกว่านั้น ฤดูนี้ เดอ บรอยน์ ยังมีค่าเฉลี่ยการจ่ายบอลที่เป็นจังหวะสำคัญ 3.2 ครั้งต่อเกม ลดลงจากฤดูกาลก่อนที่จะทำไป 3.9 ครั้งต่อนัดหมายด้วย

แถมในฤดูกาลปัจจุบันเขายังครอสบอลตรงเป้า 1.6 คราวต่อนัดหมาย ดร็อปลงจากฤดูก่อนที่จะทำไป 2.1 ครั้งต่อเกมอีกต่างหาก แต่ แม้มองดูที่การส่งบอลโดยรวมแล้วนั้น ผลงานของ เดอ บรอยน์ ใน 2 ฤดูกาลหลังสุดก็ไม่ต่างอะไรกันเยอะแค่ไหนนัก เนื่องจากว่าฤดูนี้เขาผ่านบอลตรงเป้า 81.7 เปอร์เซ็นต์

เวลาที่ฤดูกาลก่อนจำนวนความเที่ยงตรงสำหรับการผ่านบอลของเขาอยู่ในระดับ 81.5 เปอร์เซ็นต์ร่วมกัน ในช่วงฤดูกาลนี้ เดอ บรอยน์ กลับสามารถยิงตรงกรอบได้บ่อยครั้งกว่าฤดูกาลก่อน เนื่องจากจำนวนในด้านนี้ของเขาอยู่ที่เฉลี่ย 3.56 ครั้งต่อเกม

ในช่วงเวลาที่ฤดูกาลที่แล้วทำไป 3.10 ครั้งต่อนัดหมาย แต่ว่าในด้านความสามารถของลูกยิงนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากว่าฤดูกาลนี้เขาแปลงจังหวะยิงตรงกรอบให้แปลงเป็นประตูได้เพียงแค่ 0.16 ลูกต่อการยิงตรงกรอบ 1 ครั้ง ในเวลาที่ฤดูกาลก่อนจำนวนในด้านนี้อยู่ที่ 0.41 ลูกต่อการยิงตรงกรอบ 1 ที

ฉะนั้น ฤดูกาลนี้ เดอ บรอยน์ เลยทำแต้มในลีกได้เพียงแต่ 6 ลูก ลดลงจากฤดูก่อนที่จะทำไป 13 ประตูเยอะแยะพอใช้ และก็ผลต่างระหว่างประตูที่ควรทำเป็น กับปริมาณประตูที่ทำเป็นจริงๆของเขาเลยอยู่ที่ -3.7 (คือยิงได้น้อยกว่าที่ต้องเป็นเฉลี่ย 3.7 ลูก) ไปด้วย ทั้งๆที่ฤดูกาลก่อนยังอยู่ในระดับ +5.4 (หมายคือยิงได้มากกว่าที่ควรเป็นเฉลี่ย 5.4 ลูก) อยู่เลย