ก้องกังวาน “เดอะ ไลท์บลูส์” กลาสโกว์ เรนเจอร์ส รับรองแชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ชิพ

ก้องกังวาน เป็นระเบียบเรียบร้อย ภายหลังจากสหายร่วมเมืองอย่าง กลาสโกว์ เซลติก ทำเป็นเพียงแค่ออกไปเสมอกับ ดันดี ยูไนเต็ด 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา ข้างหลังเปิดบ้านกระหน่ำ เซนต์ เมียร์เรน 3-0 เมื่อวันเสาร์ 6 มี.ค.64 ทำให้กลุ่มของ “สตีวี่ จี” นำคู่ต่อสู้โด่งถึง 21 คะแนน กีฬาขี่ม้า

แล้วก็ขอเพียงแค่แต้มเดียวจาก 6 นัดหมายที่เหลือเพื่อเป็นแชมเปี้ยนรายใหม่ หรือถ้าเร็วกว่านั้น พวกเขาก็จะได้แชมป์คืนวันอาทิตย์ที่ 7 มี.ค.นี้เลย ในกรณีที่ เซลติก ไม่อาจจะบุกคว้าชัยเหนือ ดันดี ยูไนเต็ด ได้ ปัจจุบัน ผลจากการแข่งขันของวันอาทิตย์ ปรากฏว่า เซลติก ทำเพียงแต่เสมอ ดันดี ยูไนเต็ด 0-0

นำมาซึ่งการทำให้แต้มขาดในทันที โดย เรนเจอร์ส ที่มีคะแนนมากยิ่งกว่าอริร่วมเมืองถึง 20 คะแนน สามารถรับประกันแชมป์ฤดูนี้ไปครอบครองอย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว นับเป็นแชมป์ลีกแรกของพวกเขาในรอบหนึ่งทศวรรษหรือตั้งแต่แมื่อปี 2011 อย่างยิ่งจริงๆ พร้อมทั้งเลิกความใหญ่โตของ “ม้าลายเขียว-ขาว”

ที่ครองบัลลังก์เบอร์หนึ่งมาตลอดตอน 10 ปีให้หลัง โดยปัดกวาดแชมป์ถึง 9 ปีต่อเนื่องกัน ดังนี้ ตำแหน่งแชมเปี้ยนในช่วงฤดูกาลนี้ของ เรนเจอร์ส สื่อความหมายต่อแฟนคลับมากมาย ภายหลังที่พวกเขา จะต้องตกไปเล่นลีกข้างล่างในปี 2012 เพราะเหตุว่าปัญหาเกี่ยวกับการเงิน ก่อนพึ่งจะหวนกลับสู่ลีกสูงสุด

เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ช่วงเวลาเดียวกัน ยังนับเป็นเกียรติเรื่องราวแชมป์ลีกหนแรกของสมัยก่อนกัปตันกลุ่ม หงส์แดง ด้วย รวมทั้งนับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดยุคที่ 55 ของสมาพันธ์ ทิ้งห่างชั้นสองในสกอตแลนด์อย่าง เซลติก ที่ได้อยู่ 51 ครั้ง

ก้องกังวาน จืดชืดสนิท! นิวคาสเซิ่ลได้เพียงแค่เจ๊าเวสต์บรอมห่างโซนตกชั้น4แต้ม

ก้องกังวาน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด บุกไปเสมอ เวสต์บรอมวิชฯ แบบไม่มีสกอร์ 0-0 ทำให้กองทัพ “สาลิกาดง” ขยับขึ้นมารั้งที่ 16 ของตาราง แม้กระนั้นยังจำเป็นต้องดิ้นรนหนีตกรุ่นถัดมามีแต้มห่างโซนแดง 4 คะแนนเพียงแค่นั้น ส่วนกลุ่ม “เดอะ แบ็กกี้ส์” ยังรีรองบ๊วย ในศึกพรีเมียร์ลีก ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดูบอลสด

ก้องกังวาน คู่แรกทุกวันอาทิตย์ที่ 7 มี.ค. 64 ที่สนาม เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ระหว่าง เวสต์บรอมวิชฯ รองบ๊วยของตาราง เจอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กลุ่มชั้น 17 ครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล เริ่มบุกใส่ก่อน แล้วก็มาได้ลุ้นในนาทีที่ 7 เมื่อ เอมิล คราฟธ์ ทดลองส่องนอกกรอบระยะ 30 หลา แม้กระนั้นบอลไม่หนีมือของ แซม จอห์นสโตน

พุ่งรับไว้ได้อย่างง่ายดาย ต่อจากนั้นถึงแม้ เวสต์บรอมฯ จะเริ่มตั้งเกมของตนเองได้ได้โอกาสบุกใส่เป็นระยะ ก่อนที่จะได้โอกาสจบสกอร์ครั้งงแรก ในนาที 28 จากจังหวะที่ มาเธอุส เปไรร่า ทุ่มไกลเข้าจุดโทษให้ โอกาย โยคุสลู โหม่งชงให้ เอ็มบาย ดิญาน ได้ขึ้นกระแทกย้ำๆแต่ว่าเหาะผ่านคาน

แม้กระนั้นยังหาจังหวะเข้าไปทำแต้มแบบกระจ่างมิได้ผ่านครึ่งชั่วโมงยังเสมออยู่ 0-0

ตอนที่เหลือทั้งคู่กลุ่มยังทำอะไรกันมิได้

ก้องกังวาน ทำให้จบครึ่งแรก เวสต์บรอมวิชฯ เสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0 ช่วงหลังเกมดำเนินมาถึง นาที 54 เวสต์บรอมฯ เสียโอกาสทองที่จะขึ้นนำไปแบบโชคร้ายจากจังหวะที่ คอนอร์ ทาวน์เซนด์ สไตล์การเล่น

ไหลบอลมอบให้พานให้ แมตต์ ฟิลลิปส์ วิ่งมากมายดด้วยซ้ายจ่อๆหน้าปากประตูแต่ว่าบอลเหาะผ่านคานออกไปอีก เกมเริ่มมีรสออกชาติกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นาที 61 เป็นจังหวะลุ้นของ นิวคาสเซิ่ลบ้าง

โจ วิลล็อค ฉุดกระชากมากมายดด้วยขวาในจุดโทษบอลกำลังจะพุ่งทิ่มเสาแรก แต่ว่า แซม จอห์นสโตน บินปัดออกข้างหลังไปนาที 71 กองทัพ “สาลิกาดง” ได้ลุ้นสม่ำเสมอ จากจังหวะที่ โจ วิลล็อค

ฉุดกระชากบอลจากกึ่งกลางสนาม ก่อนที่จะไหลบอลให้ โชลินตอน ล็อคเข้าซ้ายแล้วซัดแต่ว่าบอลไม่มีน้ำหนักไปเข้าซองของ แซม จอห์นสโตน ในเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เวสต์บรอมวิชฯ

เสมอนิวคาสเซิ่ล 0-0 ทำให้กองทัพ “สาลิกาดง” ขยับขึ้นมารั้งที่ 16 ของตาราง แม้กระนั้นยังจำต้องดิ้นรนหนีตกรุ่นถัดมามีแต้มห่างโซนแดง 4 คะแนนเพียงแค่นั้น ส่วนกลุ่ม “เดอะ แบ็กกี้ส์” ยังรีรองบ๊วย