จิตใจย่ำแย่ หงส์แดงเปลี่ยนเป็นทีมหมดสภาพ ลุ้นแชมป์ไปเกือบจะ 100 เปอร์เซนต์แล้ว

จิตใจย่ำแย่ ข้างหลังเปิดรังแอนฟิลด์ โดนเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ บุกถลุงยับไม่นับญาติ 1-4 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ “เดอะ เร้ดส์” แพ้ยับอาจจะหนีไม่พ้นผิดพลาดในเกมรับโดยยิ่งไปกว่านั้น อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ให้ของขวัญชั้นเยี่ยมให้กับ แมนฯ ซิตี้ ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ระหว่างที่เกมรุกก็ไม่ได้หวือหวาอะไรเลย ประตูที่ได้ก็มาจากจุดลูกโทษ นอกจากนั้นไม่สามารถที่จะบีบคั้นอะไรเกมรับกลุ่มเยี่ยมได้มากนัก

สำหรับปัจจุบันนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน คงจะจำเป็นต้องเรียกประชุมสมาชิกเพื่อกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความมั่นใจและความเชื่อมั่นเป็นการด่วน เนื่องจากถ้าหากปลดปล่อยให้ภาวะจิตใจเสื่อมโทรมอย่างนี้ ช่องทางที่จะติดท็อปโฟร์ บางทีก็อาจจะผ่านไปเลยก็ได้

(อลีสซง) เบ็คเกอร์ ยื่นชัยชนะให้ แมนฯซิตี้ เกมนี้จะต้องบอกเลยว่าเนื้อหานิดๆหน่อยๆมีความจำเป็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลอดทั้งแมตช์ทั้งคู่กลุ่มค่อนข้างจะเล่นได้อย่างใกล้เคียง แม้กระนั้นจุดแปลงสำคัญในวันนี้อาจหนีไม่พ้นฟอร์มของ อลิสซง เบ็คเกอร์ ทำทำเรื่องง่ายให้แปลงเป็นเรื่องยากซะงั้น

นายทวารชาวบราซิเลียน หายป่วยกลับมาเฝ้าเสาเป็นตัวจริงให้กองทัพ “หงส์แดง” ในแมตช์สำคัญนี้ และก็แน่ๆว่าสาวก “เดอะ ค็อป” อาจจะรู้สึกอุ่นใจที่มีเขายืนเฝ้าเสา แม้กระนั้นแปลงเป็นว่า อลีสซง เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เจ้าของบ้านแพ้ในเกมนี้ ธรรมดาแล้วการเล่นด้วยเท้าของอลีสซง

ค่อนข้างจะมีความแน่ชัดอย่างยิ่ง แม้กระนั้นเกมนี้เขาทำเตะพลาดถึง 2 ครั้งทำให้กลุ่มเสีย 2 ประตูในตอนเวลาสำคัญ และก็พอเพียงขาดความเชื่อมั่น เล่นอย่างไรก็ตกต่ำ ขนาดจังหวะซัดแสกหน้าของ โฟเด้น ถ้าหากเป็นเขาคนเดิมคงจะปัดได้ แต่ว่าในเมื่อใจไม่ดีแล้ว งานนี้ยิงแบบไหนก็เป็นประตู

แม้กระนั้นหากแม้เจ้าตัวจำเป็นต้องรับผิดชอบเต็มๆกับหายนะในแมตช์นี้ แต่ว่าก็มิได้มีความหมายว่า คล็อปป์ จะดร็อปเจ้าตัวในเกมหน้า เพราะเหตุว่า อลีสซง นานๆจะบกพร่องซักครั้ง อย่างไรซะเจ้าตัวก็ยังคงเป็นความหวังในการเฝ้าเสาของ “เดอะ เร้ดส์เสมอ ความมั่นใจพลพรรค “หงส์แดงไม่เหลืออีกแล้ว

ฟอร์มของนักฟุตบอลหงส์แดงเดี๋ยวนี้บอกได้คำเดียวว่าย่ำแย่ยกทีม หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้พวกเขามีภาวะอย่างนี้ก็คือความเชื่อมั่นและมั่นใจสำหรับเพื่อการเล่นไม่เหลืออีกแล้ว พวกเขาเคยเป็นกลุ่มที่หนักแน่น เกมรุกดุเดือด เกมรับแน่นแฟ้น แต่แล้วเมื่อตอนปี “วัวเดือด” ไม่เหลือสิ่งพวกนั้นให้มองเห็นอีกเลย

ไร้ตั้งแต่ อลีสซง ที่พลาดแบบไม่น่าจะพลาด เวลาที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังคงเป็นบ่อน้ำมันชั้นเยี่ยมในเกมรับ แถมเกมรุกที่เคยเป็นเครื่องหมายการค้าก็ไม่มีให้มองเห็นอีกเลย สำหรับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะต้องสารภาพว่าพลังสำหรับในการเล่นของลำแข้งเลือดวิสกี้เกือบจะไม่เหลือ

เนื่องจากว่าสภาพร่างกายกรำศึกหนักมานานยากแค้นไปหมดแล้ว สำหรับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ฟาบินโญ่ ในฐานะกองหลังตัวกลาง ต้อง ก็จำต้องพูดว่าโชคร้ายศักยภาพของเขา แทนที่จะได้ใช้งานสำหรับการขับเกมรุก แม้กระนั้นจะต้องมายืนปักหลักเกมรับ ซึ่งกรณีนี้ก็จำต้องกล่าวว่าช่วยไม่ได้

เพราะเหตุว่าพวกเขาไม่มีกองหลังตัวกลาง อาชีพ ส่วน เบน เดวิส กับ โอซาน คาบัค เพิ่งจะย้ายมาร่วมทีม ยังไม่พร้อมลงสนามในแมตช์ใหญ่ขนาดนี้ ที่น่าผิดหวังอีกรายคงหนีไม่พ้น ติอาโก้ อัลกันตาร่า แน่ๆว่านักเตะรายนี้เป็นคนมีความสามารถสูง แต่ว่าดูท่าเขาอาจจะไม่เหมาะสมกับสไตล์

จิตใจย่ำแย่ การเล่นแบบเฮฟวี่เมทัลของ คล็อปป์สำหรับ ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะต้องเห็นด้วยว่าฟอร์มเก่งของพวกเขาไม่เหลือเลยในแมตช์นี้ ด้วยเหตุการณ์ของกลุ่มที่ย่ำแย่ คล็อปป์ บางทีอาจจำต้องดร็อปนักฟุตบอลบางบุคคลเพื่อกลับไปเรียกสติ ซึ่งถ้าหากสาวกเดอะค็อป กีฬาขี่ม้า

จิตใจย่ำแย่

จิตใจย่ำแย่ เลือกได้คงจะต้องการที่จะให้ “เจ้าหนูเทรนต์” กับ ติอาโก้ ลองนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองบ้าง เพื่อจะทำให้พวกเขาควบคุมสติเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกที ส่วนของ 3 ประสาน “หิน เหล็ก ไฟ” คงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแน่ๆ เมื่อ ดีโอโก้ โชต้า หายเจ็บกลับมาลงไปในสนามได้ เพราะเหตุว่ามั่นใจว่า ดูบอลสด

ดาวเตะชาวโปรตุกีส น่าจะทำให้เกมรุกของ “หงส์แดง” มีความมากมายหลายมากยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ !! เป๊ป ปลดล็อก แอนฟิลด์
ก่อนหน้าเกมนี้สิ่งที่สาวก “เดอะค็อป” ยังเพียงพอมีลุ้นที่บางทีก็อาจจะได้คะแนนจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เพราะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่เคยนำกลุ่มบุกมาเก็บความมีชัยในถิ่นแอนฟิลด์ได้เลย

แม้กระนั้นเดี๋ยวนี้ทุกสิ่งปลดล็อกเป็นระเบียบ เมื่อเขาจัดแจงนำกองทัพ “เรือใบสีฟ้า” ต้อนเจ้าของบ้านสบายเกือก จะว่าไปแล้วการเล่นในสนามของ ลิเวอร์พูล เป็นของเป็นพิษสำหรับ แมนฯ ซิตี้ พอเหมาะพอควร เพราะเหตุว่าพวกเขาบุกมาชนะตรงนี้ครั้งปัจจุบันก็จำต้องย้อนไปเมื่อปี 2003 ในสมัยเควิน คีแกน

ซึ่งสามารถคว้า 3 แต้มสำหรับการเล่นที่แอนฟิลด์ นับตั้งแต่นั้น 17 ครั้งในเกมลีกกลุ่มเยี่ยมแพ้ไป 12 เสมอ 5 เกม ยังไม่หมดเท่านั้น เป๊ป ยังสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซด้วยการนำกลุ่มเก็บชัยชนะ 14 เกมติดต่อในในทุกรายการ ซึ่งเสมอกันกับที่ เปรสตัน แล้วก็ อาร์เซน่อล เคยทำเป็น แถมยังได้โอกาสที่จะทำลายสถิติด้วย

เพราะว่าผลงานของกลุ่มตอนนี้ติดลมบนไปแล้ว แถมยังทำสถิติชนะในลีกเป็นเกมที่ 10 ต่อเนื่องกันด้วย สำหรับในเวลานี้หัวข้อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก คงต้องกล่าวว่าบรรดากลุ่มตามจำต้องทำใจ เพราะเหตุว่าขนาด หงส์แดง ที่ว่าแน่นอนยังแพ้ยับเยินขนาดนี้ งานนี้อาจจะหวังได้เพียงแค่ให้แมนฯซิตี้ สะดุดขาตนเอง

แต่ว่าเมื่อมองขุมกำลังกับมันสมองของ เป๊ป แล้วบอกเลยดื้อดึงมากมาย เพราะเหตุว่าช่วงนี้นักฟุตบอลทุกคนของ “เรือใบสีฟ้า” ท็อปฟอร์มสุดๆใครกันแน่ลงสู่สนามก็ได้ทั้งหมด นี่ถ้าหาก เควิน เดอ บรอยน์ กับ เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร่ กลับมาฟิตสมบูรณ์ งานนี้น่าไว้วางใจเลยว่า เป๊ป อาจจะสั่งผู้ร่วมทีมเร่งเครื่องคว้าชัยชนะลีกให้เร็วที่สุด

จิตใจย่ำแย่

การเล่นทุกรายการในฤดูกาลนี้ที่สำคัญ เขายังเป็นนักฟุตบอลที่อายุต่ำที่สุด

จิตใจย่ำแย่ เพื่อจะได้ไปลุ้นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โทรฟี่เดียวที่ยังเป็นตราบาปติดใจเขากับการควบคุมยอดกลุ่มที่ถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม โฟเด้น ยิ่งเล่นยิ่งเก่งเกินวัย หลายๆคนเป็นห่วงว่า ฟิล โฟเด้น บางครั้งอาจจะสมาธิแตกจากกรณีฉาวร่วมกับ เมสัน กรีนวู้ด ข้างหลังมีคลิปหลุดออกมาทำให้เห็นว่า

ทั้งสองแหกวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยการเชิญผู้หญิงเข้าไปที่ห้องพักในโรงแรมหรูที่ประเทศไอซ์แลนด์ จนกระทั่งถูกกลุ่มชาติอังกฤษ ไล่ตะเพิดกลับไปอยู่บ้าน งานนี้ทุกคนคิดผิดมหันต์ เนื่องจากว่านักฟุตบอลกลับใช้ฝีเท้าสำหรับเพื่อการทดแทนความบกพร่องที่ปฏิบัติตัวคะนอง

แล้วก็เป็นการพิสูจน์ให้มีความเห็นว่าด้วยวัยเพียงแค่ 20 กว่าของเขาก็สามารถที่จะเป็นตัวหลักให้กับสมาคมที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์อย่าง แมนซิตี้ได้ สำหรับเกมนี้ โฟเด้น บางทีอาจจะไม่ค่อยสะดุดตามากสักเท่าไรนัก แม้กระนั้นช่วงหลัง เป๊ป ให้เจ้าตัวมีอิสระสำหรับการเล่นเกมรุกมากเพิ่มขึ้น

และงานนี้เขาก็จัดแจงแผลงฤทธิ์ซะเลยด้วยการซัด 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ แถมตลอด 45 นาทีข้างหลังเขามีส่วนสำหรับเพื่อการขับเกมบุกบีบคั้นเจ้าของบ้านได้ตลอด ในช่วงเวลานี้ โฟเด้น ซัดไปแล้ว 10 ประตู จากการเล่นทุกรายการในฤดูกาลนี้ ที่สำคัญเขายังเป็นนักฟุตบอลที่อายุต่ำที่สุดในวัยเพียงแต่ 20 ปีกับ 255 วัน

ที่สามารถทำประตูรวมทั้งแอสซิสต์ได้ในเกมพรีเมียร์ลีก ที่สนามแอนฟิลด์ ต่อหน้าต่อตา แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ งานนี้ตำแหน่งตัวหลักในทัพ “สิงโตคำราม” จะหนีไปไหน !!

หมดลุ้นแชมป์ลีกไปโดยปริยาย แอนฟิลด์ เป็นเมกะลูกหนังที่ทำให้คู่แข่งขันจำต้องกลัว โดยยิ่งไปกว่านั้นสถิติไม่มีพ่ายแพ้ในเกมลีก 68 แมตช์ แต่ว่าในช่วงเวลานี้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างไม่เหลือมนต์ขลังอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากพวกเขาปราชัยเกมลีกในบ้านตนเอง 3 แมตช์ต่อเนื่องกัน

ซึ่งไม่เคยเกิดมานานตั้งแต่แมื่อปี 1963 นอกเหนือจากนั้น “เดอะ เร้ดส์” ยังเป็นกลุ่มที่แพ้คาบ้านในลีก 3 แมตช์ติดต่อกันภายหลังที่พวกเขาคว้าชัยชนะเมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ ซึ่งกลุ่มก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาที่เคยมีประสบการณ์ชีช้ำกระหล่ำปลีในสนามตัวเองก็คือ เชลซี ซึ่งจะต้องย้อนไป

เมื่อโดยประมาณมีนาคม 1956 ก็แทบๆ65 ปีกลายอย่างยิ่งจริงๆ ความแพ้พ่ายในเกมนี้น่าจะเป็นการรับรองได้แล้วว่า ลิเวอร์พูล หมดสิทธิ์คุ้มครองปกป้องแชมป์ลีกแทบ 100 เปอร์เซนต์ เพราะว่าพวกเขาตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 คะแนน แถม “เรือใบสีฟ้า” แข่งขันน้อยกว่า 1 นัดหมาย

ด้วยเหตุนี้สิ่งที่ คล็อปป์ แอนด์โค. ควรจะคิดตอนนี้ก็คือการดูแลและรักษาอันดับท็อปโฟร์ให้ได้ อย่าลืมว่าถ้าหากฟอร์มยังแกว่งอย่างนี้ ช่องทางที่จะหลุดวิถีโคจรโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็มีสูง ด้วยเหตุว่าในช่วงเวลานี้ทั้งยังเวสต์แฮม ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และก็เชลซี

จิตใจย่ำแย่ พร้อมที่จะโกยแต้มเพื่อแซงหน้าเดอะเร้ดส์” ด้วยเหตุนี้แมตช์ต่อที่ต้องไปเยี่ยม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ถ้าไม่อาจจะเก็บความมีชัยได้ (เสมอยังน้อยเกินไป) พวกเขาอาจจะต้องอยู่ในเหตุการณ์จำต้องดิ้นรนอย่างมากเพื่อช่องทางคว้าตั๋วไปเลยโทรฟี่ “บิ๊กเอียร์” อลีสซงพลาด